• เก่งศัพท์ Topik ใน 40วัน

    >มาเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ ที่ใช้ในการสอบ Topik ระดับ 1 และ 2 หากเรียนรู้และจำได้หมดแล้ว รับรองว่าการสอบผ่าน Topik จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

  • Oversea Korean

    เรียนรู้ภาษาเกาหลีเบื้องต้น ตั้งแต่สระ พยัญชนะ การผสมคำ การสร้างประโยค ไวยากรณ์ ไปจนการสนทนาในสถานการร์ประจำวัน

  • Korean Grammar

    เรียนรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ในภาษาเกาหลีตั้งแต่พื้นฐาน

벤 BEN - 180도 180 Degree


벤 BEN - 180도 180 Degree


사랑 다 비슷해 그래 다 비슷해
ความรักก็เหมือนๆกันแหละ ใช่ มันก็ประมาณนั้น

너는 다르길 바랐는데
ฉันได้แต่หวังว่าเธอจะต่างออกไป

넌 뭐가 미안해 왜 맨날 미안해
เธอขอโทษอะไรกัน ทำไมต้องขอโทษทุกวัน

헤어지는 날조차 너는 이유를 몰라
แม้กระทั่งวันที่เลิกกัน สาเหตุยังไม่รู้เลย

이젠 180도 달라진 너의 표정 그 말투
ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปมาก ทั้งคำพูด ท่าทาง

너무 따뜻했던 눈빛 네 향기까지도
ทั้งแววตาที่เคยอบอุ่น รวมถึงกลิ่นของเธอ

정말 너무 나도 달라진 우리 사랑 또 추억
ความรัก ความทรงจำของเรามันช่างต่างกันเหลือเกิน

아직 그대로인데 난
จริงๆ มันก็ยังเหมือนเคย แต่

이젠 180도 변해버린 지금 너와 나
ตอนนี้เรื่องราวของเราเปลี่ยนไปหมดแล้ว

남자는 다 비슷해 그래 다 비슷해
ผู้ชายก็เหมือนๆ กันแหละ ใช่ มันคล้ายๆ กันหมด

너는 아니길 바랐는데
ฉันได้แต่หวังว่า คงไม่ใช่เธอ แต่...

말로만 사랑해 거짓말 그만해
"รัก" เป็นเพียงแค่ลมปาก หยุดโกหก ซักทีเถอะ

헤어지는 날조차 왜 넌 이유를 몰라
ขนาดวันที่เลิกกัน ทำไมคุณถึงไม่รู้เหตุผล

이젠 180도 달라진 너의 표정 그 말투
ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว ทั้งสีหน้า คำพูดของเธอ

너무 따뜻했던 눈빛 네 향기까지도
ทั้งสายตาที่เคยอบอุ่น รวมถึงกลิ่นของเธอ

정말 너무나도 달라진 우리 사랑 또 추억 
ความรักและความทรงจำของเรา มันเปลี่ยนไปจริงๆ

아직 그대로인데 난
แต่ กับฉัน มันยังเป็นเหมือนเคย

이젠 180도 변해버린 지금 너와 나
ตอนนี้เรื่องของเธอและฉัน มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว

사랑해 말하지 않아도
ไม่ต้องพูดว่า "รัก"

너의 눈에 쓰여 있었던
สายตาที่เคยเอาใจใส่คู่นั้น

그때가 참 그리워
ฉันคิดถึงตอนนั้นจริงๆ

이젠 180도 변해버린 너와 나의 약속
สัญญาระหว่างเรา ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว

익숙해진 변명 거짓말까지도
ชื่อเล่นที่เคยคุ้น รวมถึงคำโกหกเหล่านั้น

모두 진심이라 믿었던 바보 같던 내 사랑
ทั้งหมดที่เคยหลงเชื่อ ความรักโง่ๆของฉัน

전부 지쳐버렸어 난
ฉันเหนื่อยเหลือเกิน

이젠 180도 변해버린 지금 너와 나
ตอนนี้ เราเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

이젠 너무 나도 그리워진 그때 너와 나
ตอนนี้ ฉันคิดถึงเรื่องราวตอนนั้นของเราเหลือเกิน
Share:

Grammar LV1 : SNU08 : N에 있어요, V-아요/어요, N-이에요/예요


가..내 방은 3층에 있어요. 내 방에는 책상과 짐대가 있어요.
나..침대 옆에는 무엇이 있어요?
가..침대 옆에는 텔레비전이 있어요.
나..냉장고도 있어요?
가..아니오, 냉장고는 없어요. 
      냉장고는 아레층에 있어요.


ฟังแทร็คเสียง



คำแปล
가..내 방은 3층에 있어요. 내 방에는 책상과 짐대가 있어요.
      ห้องของฉันอยู่ที่ชั้น 3 ค่ะ ที่ห้องของฉันมีเตียงกับโต๊ะ

나..침대 옆에는 무엇이 있어요?
      ที่ข้างเตียงมีอะไรครับ

가..침대 옆에는 텔레비전이 있어요.
      ที่ข้างเตียง มีทีวีค่ะ

나..냉장고도 있어요?  
      มีตู้เย็นด้วยเหรอครับ

가..아니오, 냉장고는 없어요.  ตู้เย็นไม่มีค่ะ
      냉장고는 아레층에 있어요. ตู้เย็นอยู่ที่ชั้นล่างค่ะ



คำศัพท์ควรรู้
내------------------------------------------>ของฉัน
방------------------------------------------>ห้อง
층------------------------------------------>ชั้น
있다--------------------------------------->มี,อยู่
없다--------------------------------------->ไม่มี,ไม่อยู่
침대--------------------------------------->เตียง
냉장고------------------------------------>ตู้เย็น
바지--------------------------------------->กางเกง
전화--------------------------------------->โทรศัพท์
몇------------------------------------------>กี่/เท่าไหร่
위------------------------------------------>ข้างบน
아래/밑 ---------------------------------->ข้างล่าง/ข้างใต้
앞------------------------------------------>ข้างหน้า
뒤------------------------------------------>ข้างหลัง
옆------------------------------------------>ข้างๆ
오른쪽------------------------------------>ขวา
왼쪽--------------------------------------->ซ้าย
근처--------------------------------------->แถวๆ/บริเวณ

안------------------------------------------>ข้างใน
책상--------------------------------------->โต๊ะ
텔레비전--------------------------------->ทีวี


ไวยากรณ์
1. N에 있어요 : อยู่ที่......... ใช้บอกคนศทางที่ตั้งของคน สิ่งของ และสถานที่

교실은 몇 층에 있어요? 
ห้องเรียน อยู่ชั้นที่เท่าไหร่คะ

내 방은 2층에 있어요.ง2. N1에는 N2이/가 있어요 :ใช้เพื่อบอกและเน้นถึงสถานที่ที่กล่าวถึงโดยเฉพาะเจาะจง

2층에는 교실이 있어요.
ที่ชั้น 2 มีห้องเรียนค่ะ

아래층에 텔레비전에 있어요.
ที่ชั้นล่าง มีทีวีค่ะ

3. V/A-아요/어요 : เป็นคำลงท้ายคำกริยาและคุณศัพท์ คล้ายๆ กับคำลงท้ายในรูปแบบ 습니다 แต่เป็นทางการน้อยกว่า 
หลักการใช้มีดังนี้
*ถ้าคำกริยาหรือคุณศัพท์มีสระตัวสุดท้ายคือ ㅗ,ㅏ ให้ใช้  아요."
좋다 -----> 좋아요.
오다 -----> 와요.
가가 -----> 가요.

*ถ้าคำกริยาหรือคุณศัพท์มีสระตัวสุดท้ายด้วยสระอื่นๆ ที่ไม่ใช่ ㅗ,ㅏ ให้ใช้  어요."
쉬다 ------> 쉬어요.
있다 ------> 있어요.

*ถ้าคำกริยาหรือคุณศัพท์มีสระตัวสุดท้ายด้วย 하다 ให้ใช้ 여요" 하다 + 여요 = 해요.
공부하다 -- 공부해요.
따뜻하다 -- 따뜻해요.

อ่านเพิ่มเติม-------> การผันคำกริยา 1 ข้อ 3.5

5. N-이에요/예요 : เป็นคำลงท้ายคำนาม คล้ายๆ กับ 입니다 แต่เป็นทางการน้อยกว่า

*ถ้าคำนามที่มีตัวสะกดให้ใช้  이에요".
도서관이에요.  ห้องสมุดค่ะ
공원이에요. : สวนสาธารณะค่ะ

*ถ้าคำนามไม่มีตัวสะกดให้ใช้ 예요"
학교예요. : โรงเรียนค่ะ
침대예요. : เตียงค่ะ

4. N1은/는 N2에 없어요 : ใช้พูดเพื่อเน้นสิ่งที่กล่าวถึง

책상은 방에 없어요.ที่
โต๊ะไม่มีในห้องค่ะ.

교실에는 텔레비전이 없어요.
 ที่ห้องเรียน ไม่มีทีวีค่ะ


5. 내 N : ของฉัน ใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
 
내 방은 2층에 있어요.
ห้องของฉัน อยู่ที่ชั้น 2

내 바지는 침대 위에 있어요.
กางเกงของฉัน อยู่บนเตียง.

สงสัยตรงไหนสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้านะคะ

Share:

การผันคำกริยา 2: การผันคำกริยาแบบไม่เป็นไปตามกฎ


การผันคำกริยาแบบไม่เป็นไปตามกฎ

1. คำกริยาที่สะกดด้วย  ㅅ
    เมื่อพยางค์ถัดไปเริ่มด้วย ㅇ จะต้องตัดตัวสะ ㅅ ออกไป ดังตัวอย่าง

แต่มีคำกริยาบางคำที่มีข้อยกเว้น ไม่ต้องตัด ㅅ ออกไป คือ 벗다 (ถอด ), 웃다 (หัวเราะ), 씻다 (ล้าง), 빗다 (หวี) 



2. คำกริยาที่สะกดด้วย  ㅂ
    คำกริยาที่สะกดด้วย ㅂ จะต้องตัด ㅂ ออกและเติม  우 หรือ 오 หากตามด้วย 아/어요 ดังตัวอย่าง


แต่มีคำกริยาบางคำที่มีข้อยกเว้น ไม่ต้องตัด ㅂ ออกไป คือ 잡다 (จับ), 뽑다 (ถอน), 씹다 (เคี้ยว), 입다 (สวมใส่)


3. คำกริยาที่สะกดด้วย  ㄷ
    คำกริยาที่สะกดด้วย ㄷ จะต้องเปลี่ยน ㄷ เป็น   เมื่อพยางค์ถัดไปเริ่มด้วย ㅇ ดังตัวอย่าง

คำกริยาที่สะกดด้วย ㄷ บางคำก็มีข้อยกเว้น ไม่ต้องเปลี่ยน ㄷ เป็น ㄹ นั่นก็คือ 받다 (รับ), 닫다 (ปิด), 얻다 (ได้รับ), 믿다 (เชื่อ)  


4. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย 르
คำกริยาที่ลงท้ายด้วย 르 จะต้องเติม ㄹ เป็นตัวสะกดให้พยางค์หน้า และตัด สระ ㅡ ออก จากนั้นเติมสระ ㅓ หรือ ㅏ ต่อท้าย

จะเติม ㅓ หรือ ㅏนั้น ให้ดูสระที่พยางค์หน้าว่าเป็นสระใด หากพยางค์หน้าเป็นสระ  ㅗ,ㅏ ให้เติม ㅏ หากเป็นสระอื่นๆ ให้เติม ㅓ ดังตัวอย่าง

จบแล้วค่ะ สำหรับคำกริยาที่ไม่เปลี่ยนไปตามกฎ จำเป็นจะต้องเรียนรู้และจำให้ดีว่า คำกริยาใดที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรูปไปตามกฎ

แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ




Share:

การผันคำกริยา 1 - การผันคำกริยาแบบปกติ


1. การผันคำกริยาคืออะไร?

คำกริยาภาษาเกาหลีทั้งหมดลงท้ายด้วย - 다 เช่น 가다 (ไป), 적다 (เขียน), และ 살다(มีชีวิตอยู่,อาศัยอยู่) คำที่นำหน้า - 다 เช่น 가, 먹,และ 살  เราเรียกว่ารากศัพท์คำกริยา
ซึ่งรากศัพท์เหล่านี้จะต้องนำมาเปลี่ยนรูปตามความหมายที่แสดงออกของกาลเวลาและระดับความสุภาพ

2. กริยาปกติและกริยาที่ไม่ปกติ
คำกริยาส่วนใหญ่จะเปลี่ยนรูปไปตามปกติ แต่ว่ายังมีคำกริยาที่มีข้อยกเว้น จะต้องมีการเปลี่ยนรูปที่แตกต่างออกไป จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับคำกริยาเหล่านี้ เช่น คำกริยาที่สะกดด้วย ㄹตัวอย่างเช่น 살다 (มีชีวิตอยู่), และ 돌다 (กลับ). คำเหล่านี้จะเปลี่ยนรูปตามกฎพื้นฐานแต่ว่าในบางครั้ง จะผันแตกต่างจากคำกริยาปกติอื่นๆ

3. รูปแบบการผันคำกริยาปกติ

3.1 คำกริยา  + คำลงท้าย -자, -고, -거나, -지만, -기, -지, และ -겠 สามารถเติมคำต่อท้ายเหล่านี้ต่อท้ายคำกริยาได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องคำนึงว่าคำกริยานั้นสะกดด้วยพยัญชนะใด

ตัวอย่าง:
(-자) = 가다 + 자→가자 (ไปกันเถอะ)
(-자) = 적다 + 자→적자 (เขียนกันเถอะ)
(-자) = 살다 + 자→살자 (อยู่ด้วยกันเถอะ)
(-고) = 가다 + 고→가고 (ไป แล้วก็..)
 (-고) = 적다 + 고→적고 (เขียน แล้วก็..)
 (-고) = 살다 + 고→살고 (อาศัยอยู่ แล้วก็..)

3.2 คำกริยาที่มีตัวสะกด ㄹ + ต่อท้ายด้วย -니?  -는데, and -는 สามารถเติมท้ายคำกริยา แต่ทว่า สิ่งที่สำคัญ คำกริยาที่สะกดด้วย ㄹ จะต้องตัด ㄹ ทิ้ง

ตัวอย่าง:
(-니?)
① 가다 + 니? → 가니?
    적다 + 니? → 적니?
② 살다 + 니? → 사니?

(-는데)
① 가다 + 는데 → 가는데
    적다 + 는데 → 적는데
② 살다 + 는데 → 사는데

 3.3 คำกริยา  +  คำลงท้าย -면/-으면, -려고/-으려고, -며/-으
며, และ -ㅁ/-음
ซึ่งการผันจะขึ้นอยู่กับสระและพยัญชนะตัวสุดท้ายของกริยา ถ้าคำกริยามีพยัญชนะเป็นตัวสะกด ควรจะเติม -으 ก่อนคำลงท้ายเหล่านี้
ข้อควรจำสำหรับคำกริยาที่สะกดด้วย  ㄹ และใช้ไวยากรณ์เหล่านี้ต่อท้าย ไม่ต้องเติม -으 และไม่จำเป็นจะต้องตัดตัวสะกด ㄹ ออกไป

ตัวอย่าง:
(-면/-으면)
① 가다 + 면 → 가면 (ถ้าไป)
② 살다 + 면 → 살면 (ถ้าอยู่)
③ 적다 + 으면 → 적으면 (ถ้าเขียน)

(-려고/-으려고)
① 가다 + 려고 → 가려고 (ตั้งใจจะไป)
② 살다 + 려고 → 살려고 (ตั้งใจจะอยู่)
③ 적다 + 으려고 → 적으려고 (ตั้งใจจะเขียน)

3.4 คำกริยาที่เติมคำลงท้ายด้วย (-으-/ -느-/ -스-) การผันคำกริยาในกลุ่มนี้จะคล้ายๆ กับข้อที่แล้ว แต่ทว่าคำกริยาที่มีตัวสะกด ㄹ จะต้องตัดตัวสะกด ㄹ ออก และเติมด้วยคำลงท้ายเหล่านี้
 -세요 / -으세요, -ㄴ다 / -는다, -ㄴ / -은, -ㄹ / -을, -니까 / -으니까, -ㅂ니
다 / -습니다, -ㅂ니까? / -습니까? และ -ㅂ시다 / -읍시다

ตัวอย่าง:
(-세요/-으세요)
① 가다 + 세요 → 가세요 (กรุณาไป)
② 살다 + ㄹ 세요 → 사세요 (กรุณาอยู่)
③ 적다 + 으세요 → 적으세요 (กรุณาเขียน)

(-ㄴ다/-는다)
① 가다 + ㄴ다 → 간다 (ฉันไป)
② 살다 + ㄴ다 → 산다 (ฉันอยู่)
③ 적다 + 는다 → 적는다 (ฉันเขียน)

(-ㅂ니다/-습니다)
① 가다 + ㅂ니다 → 갑니다 (ฉันไป)
② 살다 + ㅂ니다 → 삽니다 (ฉันอยู่)
③ 적다 + 습니다 → 적습니다 (ฉันเขียน)

3.5 คำกริยา + คำต่อท้าย 아/어/여
คำกริยาในรูปแบบนี้ จะตามด้วย -아요/-어요/-여요, -아/-어/-여, -아라/-어
라/-여라, -았어요/-었어요/-였어요, และ -아서/-어서/-여서.
คำเหล่านี้เป็นคำต่อท้ายคำกริยาแบบพื้นฐานที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน การผันคำกริยาในรูปแบบนี้จะแบ่งตามสระตัวสุดท้าย
คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ㅗ,ㅏ จะต่อท้ายด้วย 아요,아라, 아,았어요,아서
คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ㅓ,ㅡ ,ㅜ,ㅣ ..และอื่นๆ ที่ไม่ใช่ ㅗ,ㅏ จะต่อท้ายด้วย 어요,어라, 아,었어요,어서
คำกริยาที่ลงท้ายด้วย  하다  จะต่อท้ายด้วย 여요, (하다 + 여요 ----> 해요)

 ตัวอย่าง:
(-아요 /-어요 /-여요 ) <-----------ปัจจุบัน
① 가다 + 아요 → 가요 (ฉันไป)
     오다 + 아요 → 와요 (ฉันมา)
     살다 + 아요 → 살아요 (ฉันอยู่)
② 서다 + 어요 → 서요 (ฉันยืน)
③ 공부하다 + 여요 → 공부해요 (ฉันเรียน)

(-았어요/-었어요/-였어요) <-----------อดีต
① 가다 + 았어요 → 갔어요 (ไปแล้ว)
     오다 + 았어요 → 왔어요 (มาแล้ว)
     살다 + 았어요 → 살았어요 (อาศัยอยู่แล้ว)
② 서다 + 었어요 → 섰어요 (ยืนแล้ว)
③ 공부하다 + 였어요 → 공부했어요 (เรียนแล้ว)

จากตัวอย่าง อาจจะพบว่าการผันกริยาอาจดูแปลกๆ เช่น
가다 +아요 กลายเป็น 가요ทำไมไม่ใช่ 가아요
오다 + 아요 กลายเป็น 와요 ทำไมไม่ใช่ 오아요
서다 + 어요 กลายเป็น 서요 ทำไมไม่ใช่ 서어요.

นี่เป็นเพราะกฎในการรวมสระในภาษาเกาหลีเมื่อนำมาใช้ร่วมกับการผันคำกริยา ดังตารางนี้


อาจจะดูยุ่งยากน่าปวดหัวสำหรับการผันคำกริยาในภาษาเกาหลี แต่มันเป็นกฎที่จำเป็นต้องรู้ในการเรียนภาษาเกาหลี เพราะฉนั้นจึงควรฝึกฝนและทำความเข้าใจ จะช่วยให้การเรียนไวยากรณ์ในภาษาเกาหลีง่ายขึ้น

ในบล็อกหน้าเราจะมาต่อด้วยคำกริยาที่ผันแบบไม่เป็นไปตามกฎกันนะคะ สงสัยตรงไหนทิ้งข้อความไว้ในบล็อกหรือในเพจได้เลยค่ะ

แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าคร่า


Share:

은/는


은/는

1. ใช้เติมหลังคำนาม  เพื่อเน้นย้ำให้ความสำคัญกับเนืื้อเรื่องหรือสิ่งที่กล่าวถึง
2. ใช้เน้นเพื่อเปรียบเทียบสองข้อความ

ไม่มีตัวสะกด
저는
엄마는
ฉัน
แม่
มีตัวสะกด
당신은
동생은
คุณ
น้อง
Share:

Facebook comment

อยากสมัครบัตรกดเงินสด คลิกเลย!!!

Popular Posts


Facebook Like