• เก่งศัพท์ Topik ใน 40วัน

    >มาเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ ที่ใช้ในการสอบ Topik ระดับ 1 และ 2 หากเรียนรู้และจำได้หมดแล้ว รับรองว่าการสอบผ่าน Topik จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

  • Oversea Korean

    เรียนรู้ภาษาเกาหลีเบื้องต้น ตั้งแต่สระ พยัญชนะ การผสมคำ การสร้างประโยค ไวยากรณ์ ไปจนการสนทนาในสถานการร์ประจำวัน

  • Korean Grammar

    เรียนรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ในภาษาเกาหลีตั้งแต่พื้นฐาน

시간 การดูเวลา

การดูเวลาในภาษาเกาหลีนั้น จะแบ่งเวลาเหมือนกับทางฝั่งตะวันตกคือ 오전  และ 오후

오전 (A.M.)  00.00 - 11.59
오후 (P.M.)  12.00 - 23.59

ซึ่งในแต่ละวันก็จะแบ่งออกเป็น เช้า (아침) กลางวัน (점심) เย็น (저녁) กลางคืน(밤) และ รุ่งอรุณ (새벽)


ตอนเช้า (아침) เริ่มนับตั้งแต่ 07.00 - 11.59 น.
ตอนเที่ยง, บ่าย (점침) เริ่มนับตั้งแต่ 12.00 - 17.59 น.
ตอนเย็น (저녁) เริ่มตั้งแต่ 18.00 - 19.59 น.
ตอนกลางคืน (밤) เริ่มตั้งแต่ 20.00 - 01.59 น.
ตอนรุ่งอรุณ (새벽) เริ่มตั้งแต่ 02.00 - 06.59 น. 

เรื่องการดูเวลาในภาษาเกาหลีนั้น มีหลักในการดูว่า ชั่วโมงจะต้องใช้เลขเกาหลี ส่วนนาทีและวินาทีต้องอ่านด้วยเลขจีน ยกตัวอย่างเช่น

ในช่วงเวลาบ่ายมักจะมีคำว่า 오후 วางไว้ด้านหน้าเช่น บ่ายโมงสามสิบห้านาที (13.35 น.) คือ 

오후 한시 삼십오분 (บ่ายโมง สามสิบห้านาที)

시 = นาฬิกา, โมง
분 = นาที
초 =  วินาที

오후 한시 삼십분 (บ่ายโมงสามสิบนาที)

สามารถอ่านได้อีกแบบคือ 오후 한시 (บ่ายโมงครึ่ง)

หมายถึงครึ่ง

ซึ่งจะเหมือนกับการดูเวลาของไทย เรามักจะบอกว่าบ่ายโมงครึ่ง มากกว่าจะพูดว่าบ่ายโมง 30 นาที

ไม่ยากใช่ไหมคะ งั้นมาลองทำแบบฝึกหัดกันค่ะ



ขอขอบคุณบทเรียนและภาพประกอบจาก Korean Grammar in Use Beginning

Share:

달력 การดูวันที่ในปฏิทิน

달력 การดูวันที่ในปฏิทิน


เดือนกันยายนของทุกปี ที่ประเทศเกาหลีมีเทศกาลใหญ่ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของชาวเกาหลี เรียกว่าเทศกาลชูซ็อก "추석" หรือวันขอบคุณพระเจ้า เป็นวันหยุดที่สำคัญที่สุดในเกาหลี สมาชิกในครอบครัวจะมารวมตัวกัน กราบไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 27 กันยายน 2558 เทศกาลชูซ็อกนั้นมีชื่อเรียกอีกอย่างในภาษาเกาหลีว่า ฮันกาวี (한가위) 



ในเดือนนี้จึงเป็นช่วงที่ชาวเกาหลีหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 26-29 กันยายน 2558


เพราะฉนั้นวันนี้ ในบล็อกนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับการดูและอ่านปฏิทินกันนะคะ 
ยกตัวอย่างวันที่ 29 กันยายน 2015 ในภาษาเกาหลีจะเขียนกลับกัน คือ 2015년 9월 29일.. 

2015년 9월 29일
년 = ปี         월 = เดือน      일 = วันที่

การอ่านปี
2015년 อ่านว่า 이천십오년 (ปี 2015)

การอ่านเดือน




**ข้อควรจำ**
เดือนมิถุนายน ต้องอ่านว่า 유월 ไม่ใช่ 육월
เดือนตุลาคม จะต้องอ่านว่า 시월 ไม่ใช่ 십월




**ข้อควรจำ**
วันที่ 16  ต้องอ่านว่า 심뉴길 (ชิมนยูกิล) ไม่ใช่ 심육일
วันที่ 26 จะต้องอ่านว่า 이심뉴길 (อีชิมนยูกิล) ไม่ใช่ 이심육일

การอ่านวัน

 การถามว่า วันไหน ปีไหน เดือนไหนนั้น จะถามได้ง่ายๆ โดยการเติม 몇 (กี่) ไว้ข้างหน้า
몇년(ปีอะไร)  몇월(เดือนอะไร)  며칠(วันที่อะไร) 무슨 요일(วันอะไร)

เพราะฉนั้นสิ่งที่ต้องจำคือ การถามวันที่เราจะไม่ถามว่า 몇일? แต่ต้องถามว่า 며칠 แทน ยกตัวอย่างเช่น
 오늘이 몇일이에요? (ถามแบบนี้ผิดนะคะ)
 오늘이 며칠이에요? (ถามแบบนี้จึงจะถูกต้อง)

ลองทำแบบฝึกหัดดูนะคะ



**แล้วพบกันใหม่นะคะ**
Share:

숫자 ตัวเลขในภาษาเกาหลี

บล็อกนี้มาเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเลขและวิธีการอ่านตัวเลขในภาษาเกาหลีกันนะคะ

ในภาษาเกาหลีนั้นมีตัวเลขที่ต้องจำอยู่ 2 ชุดคือ ตัวเลขเกาหลี และเป็นเลขที่ยืมมาจากภาษาจีน 

* ตัวเลขคำยืมจากจีน เลขเกาหลี
0 = 공/영
1 하나
2
3
4
5 다섯
6 여섯
7 일곱
8 여덟
9 아홉
10
11 십일 열하나(열한)
20 이십 서른
30 삼십 스물 (스무)
40 사십 마흔
50 오십
60 육십 예순
70 실십 일흔
80 팔십 여든
90 구십 아흔
100
1,000
10,000
100,000 십만 십만
1,000,000 백만 백만
100,000,000

1. ตัวเลขคำยืมจากจีนนั้นจะใช้แสดงกับสิ่งของต่างๆ ดังเช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขรถโดยสารประจำทาง ส่วนสูง น้ำหนัก ที่อยู่ ปี เดือน นาที วินาที และ ราคาสิ่งของ เป็นต้น




จำกันได้หรือยังคะ ถ้าจำได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เริ่มเรียนรู้วิธีการอ่านตัวเลขในภาษาเกาหลีกันดีกว่าค่ะ

1.    หลักในการอ่านเลขภาษาเกาหลีนั้น วิธีการอ่านเลขจะแตกต่างจากการอ่านเลขไทยของเราอยู่บ้าง ภาษาเกาหลีนั้นจะยึดหลักหมื่น 만 (10000) เป็นหลัก  วิธีอ่านในภาษาเกาหลีคือ ให้ตัดเลขออกเป็นชุด 4 ตัว

ตัวอย่าง
354,790       = 35/4790       (삼십오만/사천칠백구십)
6,354,790    = 635/4790     (육백삼십오만/사천칠백구십)
26,354,790  = 2635/4790   (이천육백삼십오만 사전칠백구십 )

2.  วิธีการอ่านตัวเลขที่นำหน้าด้วยเลข 1 นั้น เราจะไม่ออกเสียง 1  ซึ่งต่างจากของไทย 100 อ่านว่า หนึ่งร้อย ส่วนตัวเลขเกาหลีจะอ่าน ร้อย (백) เฉยๆ

ตัวอย่าง
110 อ่านว่า 백십 (ห้ามอ่าน일백십)
11,110 อ่านว่า만천백십(ห้ามอ่าน일만천백십)

3.   การออกเสียง 16, 26, 36 ... ไปจนถึง 96 อ่านออกเสียงว่า

16  [십육]    --> [심뉵]
26 [이십육]  --> [이심뉵]
36 [삼십육]  --> [삼심뉵]
...
...
96 [구십육]  --> [구심뉵]

4.  การออกเลข 0 (영/공) ซึ่งปรากฏอยู่ในหมายเลขโทรศัพท์นั้น ให้อ่านว่า 공 เช่น

6508-8254 •  육오공필의 [] 팔이오사
010-4783-0274 •  공일공 사칠팔삼의[] 공이칠사
의 ให้อ่านออกเสียงว่า "เอ" ไม่ใช่ "อึย"

***แบบฝึกหัด***

ตัวอย่าง
A: 전화번호가 뭐예요?
B: 2734-3698이에요.  (이칠삼사의 삼육구팔)이에요.

(1)  A: 휴대전화가 있어요? (มีโทรศัพท์มือถือไหมคะ)
      B:  네,있어요. 010-738-3509예요.(มีค่ะ 010-738-3509 ค่ะ)
           (................................... )예요.

(2)  A: 몸무게가 몇 킬로그램(kg)이에요? (น้ำหนักกี่กิโลกรัมคะ)
       B: 34킬로그램(kg)이에요.  (34 กิโลกรัมค่ะ)
           (..................)킬로그램(kg)이에요.

(3) A:  키가 몇 센티미터(cm)예요? (สูงกี่เซ็นติเมตรคะ)
      B: 175센티미터(cm)예요.  (175 เซ็นติเมตรค่ะ)
          (...............)센티미터(cm)예요.

(4) A: 치미가 얼마예요? (กระโปรง (ราคา) เท่าไหร่คะ)
      B: 62,000원이에요. (62,000 วอนค่ะ)
          (...........................)원이에요.


----------------------------------------------------

2. ตัวเลขเกาหลีนั้นจะใช้ในการแสดงเวลาและลักษณะนาม เมื่อจะนับจำนวน สัตว์ สิ่งของหรือ คน เช่น 명 (คน), 마리 (ตัว), 개 (อัน), 살 (ขวบ/ปี),  병(ขวด) และ잔 (แก้ว) เป็นต้น  โดยจะใช้เลขเกาหลีไว้หน้าลักษณะนามเหล่านี้

ข้อควรจำ

การนำมาเลขเกาหลีมาใช้จริงนั้น รูปแบบการเขียนจะเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

하나   กลายเป็น  한  ตัวอย่างเช่น  학생 한 명 (นักเรียนหนึ่งคน)
둘      กลายเป็น  두  ตัวอย่างเช่น  개 두 마리 (หมา 2 ตัว)
셋      กลายเป็น  세  ตัวอย่างเช่น  커피 세 잔 (กาแฟ 3 แก้ว)
넷      กลายเป็น 네  ตัวอย่างเช่น   콜라 네 병 (โค้ก 4 ขวด)
스물  กลายเป็น 스무ตัวอย่างเช่น   사과 스무 개 (แอปเปิ้ล 20 ลูก)

ตัวอย่างการใช้เลขเกาหลีกับลักษณะนาม

하나 + 개 (อัน) 개 (อัน)
둘 + 개 개.
셋 + 개
넷+ 개
다섯 + 개 다섯개
여섯 + 개 여섯개
일곱 + 개 일곱개
여덟 + 개 여덟개
아홉 + 개 아홉개
열 + 개 열개
열하나 + 개 열한
스물 + 개 스무

เข้าใจแล้วใช่ไหมคะ งั้นทดลองทำแบบฝึกหัดกันค่ะ



ตัวอย่าง
남자가 두명,  여자가 세명 있어요. 
ผู้ชายมี 2 คน,    ผู้หญิงมี 3 คน


(1) 개가(สุนัข).................. 있어요. (마리 - ตัว)

(2) 텔레비전이(โทรทัศน์)..................., 
     컴퓨터가(คอมพิวเตอร์)................있어요. ( -เครื่อง)

(3) 의자가(เก้าอี้) .......................개,
     사과가 (แอปเปิ้ล).....................있어요.( - ตัว,อัน,ลูก) 

(4) 콜라가 (โค้ก)......................., 
     주스가(น้ำผลไม้)......................있어요.( - ขวด)

(5) 책이 (หนังสือ) ........................…있어요 ( - เล่ม)
     꽂이 (ดอกไม้)............ 송이 있어요. (송이 - ดอก)

Share:

N이/가 있다 มี, อยู่

N이/가 있다  มี, อยู่

N이/가 있다 จะบ่งบอกถึงสถานที่/ที่ตั้ง หรือบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งคำตรงข้ามของ 있다 ก็คือ 없다 ซึ่งแปลว่าไม่มี

1. การใช้ N이/가 있다 เพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้งมีหลักการใช้ดังนี้

N이/가 N(place)에 있다
หรือ
N(place)에 N이/가 있다

ซึ่งจากโครงสร้างประโยคทั้งสองแบบ ไม่ว่าจะวางรูปประโยคแบบไหน ความหมายของประโยคก็ไม่เปลี่ยน

Ex.-
컴퓨터가 책상 위에 있어요
คอมพิวเตอร์อยู่บนโต๊ะ
책상 위에 컴퓨터가 있어요
บนโต๊ะมีคอมพิวเตอร์
책이 어디에 있어요?
หนังสืออยู่ที่ไหน
가방안에 있어요.
อยู่ในกระเป๋า

จะเห็นได้ว่าประโยคทั้งสองนี้ เมื่อแปลความหมายแล้วจะได้ความหมายเหมือนกันแม้จะวางสลับตำแหน่ง

คำศัพท์ที่ควรจำเกี่ยวกับตำแหน่งทีี่ตั้งต่างๆ
ข้างหน้า
ข้างหลัง
ข้างบน
아래(밑) ข้างใต้
ด้านข้าง
가운데 ตรงกลาง
사이 ระหว่าง
ข้างใน
ข้างนอก
오른쪽 ด้านขวา
왼쪽 ด้านซ้าย

2. การใช้ N이/가 있다 เพื่อแสดงถึงการครอบครองสิ่งของบางสิ่งบางอย่าง "มี" ซึ่งคำตรงข้ามของ 있다 ก็คือ 없다 ซึ่งแปลว่าไม่มี

나는 언니가 있어요. 통생이 없어요.
ฉันมีพี่สาว / ไม่มีน้อง
자전거가 있어요. 차가 없어요.
มีจักรยาน / ไม่มีรถยนต์

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ถ้าพอเข้าใจแล้วก็ทดลองทำแบบฝึกหัดกันค่ะ


(1) 텔레비전 ......에 꽃병이 있어요.           (2) 이민우 씨 ............에 캐렬 씨가 있어요.
(2) ..............씨 왼쪽에 가방이 있어요.      (4) 가방............. 에책이 있어요.
(5) 신문이 가방..........에있어요.               (6) 이민우씨가 .............. 오른쪽에 있어요.

แล้วพบกันใหม่นะคะ

Credit รูปภาพและบทเรียนจาก Korean Grammar in Use Beginning

Share:

N + 이다 สิ่งนี้เป็น....


 N + 이다


ใช้สำหรับต่อท้ายคำนาม เพื่อบอกว่า สิ่งนั้นเป็น.....สิ่งนี้คือ....... เช่น
의자+이다 = 의자이다 เป็นเก้าอี้

ซึ่งเวลานำไปใช้จริงจะต้องมีการนำ 이다 ไปผันในรูปต่างๆ เช่น



ตัวอย่าง

이것이 무엇입니까? อันนี้คืออะไรคะ/ครับ
이것은 의자입니다. อันนี้คือเก้าอี้ค่ะ/ครับ

ถ้าผู้ถามถามในรูปประโยคที่เป็นทางการเราก็ควรตอบในรูปประโยคเดียวกัน

이것이 무엇이에요?  อันนี้คืออะไรคะ/ครับ
이것은 의자예요  อันนี้คือเก้าอี้ค่ะ/ครับ

สังเกตว่าความหมายจะเหมือนกัน จะแตกต่างกันแค่รูปแบบโครงสร้างของคำกริยา ซึ่งจะผันตามระดับของความสุภาพ ซึ่งแบบหลังเป็นประโยคที่สุภาพแต่ไม่เป็นทางการ

เข้าใจกันแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นลองทำแบบฝึกหัดกันดูนะคะ

이것이 무엇입니까? (อันนี้คืออะไรคะ)   
................................................
(อันนี้คือหมวกครับ)
저것이 무엇입니까? (อันโน้น คืออะไรครับ)   
................................................    
 (อันโน้น คือนาฬิกาค่ะ)
가수입니까? (เป็นนักร้องใช่ไหมคะ/ครับ)   
네, ............................................   
(ใช่, เป็นนักร้องครับ/ค่ะ)
누구입니까?   (เป็นใครคะ/ครับ)
................................................  
(เป็นอาจารย์ครับ/ค่ะ) 

แล้วพบกันใหม่ในบล็อกต่อไปนะคะ
Share:

Facebook comment

อยากสมัครบัตรกดเงินสด คลิกเลย!!!

Popular Posts


Facebook Like